หอยเชอรี่ (golden apple snail)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pomacea canaliculata Lamarck
วงศ์ : Ampullariidae อันดับ : Mesogastropoda
ชื่อสามัญอื่น : หอยโข่งอเมริกาใต้, หอยเปาอื้อน้ำจืด
รูปร่างลักษณะและชีวประวัติหอยเชอรี่
หอยเชอรี่ Pomacea canaliculata
Lamarck เป็นหอยทากน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายหอยโข่งแต่เปลือกมีสี
อ่อนกว่าคือมีสีเขียวเข้มปนดำผสม
กับแถบสีจางๆพาดตามความยาว เปลือก บางตัวมีสีเขียวเข้มปนดำ บางตัวมีสีเหลืองปนน้ำตาล (ภาพที่ 1)
ตัวเต็มวัยนาน 3 เดือน สามารถผสมพันธุ์และวางไข่ได้ เพศ เมียวางไข่ในที่แห้งเหนือระดับน้ำ สามารถวางไข่ได้ตลอดปี โดยเฉพาะฤดูฝนวางไข่ได้ 10 - 14 ครั้งต่อเดือน ไข่มีสีชมพู
เกาะติดกันเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 388 - 3,000 ฟอง (ภาพที่ 2)
ขึ้นกับขนาดของหอยเพศเมีย ระยะไข่ 7 - 12 วัน ลูกหอย
ตัวเล็กๆกินสิ่งอ่อนนิ่ม เช่น สาหร่ายเป็นอาหาร และ เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อมีขนาด 1.6 เซนติเมตร ก็เริ่ม กัดกินต้นข้าวได้
ลักษณะการทำลายของหอยเชอรี่
หอยเชอรี่เป็นศัตรูสำคัญของข้าวในระยะหว่านชอบกัดกินต้นข้าวอ่อนๆ ระยะกล้าจนถึงแตกกอในช่วงเช้าและเย็น โดยจะกัดกินลำต้นใต้ผิวน้ำสูงเหนือระดับโคนต้น 0.5-1 นิ้ว และกินส่วนใบที่ลอยน้ำต่อไปจนหมดต้น พบระบาดมากในนาข้าวทั่วประเทศ โดยเฉพาะนาข้าวที่มีน้ำขัง
ลักษณะการทำลายต้นกล้าข้าวในนาหว่าน
สภาพนาข้าวที่เหมาะต่อการระบาด
การป้องกันกำจัดหอยเชอรี่โดยวิธีผสมผสาน
เชอรี่เป็นหอยทากน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า หอยโข่งอเมริกาใต้ เป่าซื้อน้ำจืด หอยชนิดนี้มีลักษณะ คล้ายหอยโข่งบ้านเรา แต่เปลือกมีสีอ่อนกว่า คือ มีทั้งสี เขียวเข้มปนดำผสมกับแถบสีจางๆ พาดตามความยาว เปลือกและบางตัวมีสีเขียวเข้มปนดำอย่างเดียว ในขณะที่
บางตัวมีสีเหลืองปนน้ำตาล ส่วนเนื้อหอยมีตั้งแต่สีเหลือง อ่อนจนถึงสีเหลืองแก่ หรือสีน้ำตาล อ่อนจนถึงน้ำตาล เข้ม
เกือบดำ หอยตัวเต็มวัยอายุเพียง 3 เดือน มีความสูง 2.5 เซนติเมตร สามารถผสมพันธุ์และวางไข่ได้ แม่หอยจะ วางไข่ในที่แห้งเหนือระดับน้ำ
แม่หอยสามารถวางไข่ได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝน จะวางไข่ได้ถึง 10 - 14 ครั้ง ต่อเดือน ส่วนในฤดูร้อนจำนวน ครั้งที่แม่วางไข่จะน้อยลง ไข่หอยเชอรี่จะฟักเป็นตัวภายใน 7 - 12 วัน ลูกหอยตัวเล็ก ๆ จะกินสิ่งที่อ่อนนิ่ม เช่น สาหร่ายเป็นอาหาร และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อมีขนาด 1.6 เซนติเมตร ก็เริ่มกัดกินต้นข้าวได้ หอยเชอรี่ชอบกิน ต้นข้าวอ่อน ๆ ตั้งแต่ระยะข้าวปักดำใหม่จนถึงแตกกอเต็มที่ โดยจะกัดกินลำต้นข้าวใต้ผิวน้ำสูงเหนือโคนต้น 0.5 - 1 นิ้ว แล้วกินส่วนใบที่ลอยน้ำต่อไปจนหมดต้น นอกจากนี้หอย เชอรี่ยังกินได้ทั้งซากพืชและซากสัตว์ตลอดจนพืชน้ำสดชนิด
อื่น ได้แก่ ผักบุ้ง ผักกระเฉด บัว ผักตบชวา และกระจับ เป็นต้น กินอย่างรวดเร็ว และกินได้ตลอดเวลา โดยสามารถกิน อาหารได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวต่อวัน
การป้องกันกำจัดหอยเชอรี่
การป้องกันและกำจัดหอยเชอรี่ให้ประสบผลสำเร็จ
จำเป็นต้องใช้วิธีการต่างๆ ร่วมกัน การใช้สารเคมีเพียง อย่างเดียวจะทำให้การกำจัดไม่ได้ผล อีกทั้งยังต้องใช้สาร
เคมีปริมาณมากขึ้น ดังนั้นเกษตรกรควรคำนึงว่าการป้องกัน และกำจัดหอยเชอรี่ที่ดีที่สุดคือ ใช้วิธีผสมผสาน โดยมีขั้น
ตอนดังนี้
1. ใช้วัสดุกั้นทางที่ไขน้ำเข้านา หอยเชอรี่แพร่กระจาย และระบาดเข้าสู่นาข้าวโดยทางน้ำเท่านั้น ดังนั้น ทุกครั้งที่ สูบน้ำเข้านาไม่ว่าจะเป็นนาดำหรือนาหว่านให้ใช้เฝือกกัน สวะและหอยที่มีขนาดใหญ่ก่อนแล้วจึงกั้นตามอีกชั้นด้วย
ตาข่ายไนล่อนตาถี่ ต้องเก็บหอยและสวะออกจากตาข่าย
เพื่อไม่ให้กีดขวางทางน้ำเข้าอย่างสม่ำเสมอ
2. ทำลายไข่หอย โดยปักไม้รวดตามข้าง ๆ คันนาทุก 10 ก้าว เพื่อล่อให้หอยมาไข่แล้วเก็บออกไปทำลาย รวมทั้ง ไข่ที่อยู่ตามต้นข้าวและวัชพืชข้างคันนาอย่างน้อยสัปดาห์ ละครั้ง ติดต่อกัน 4-6 สัปดาห์ นับแต่ไขน้ำเข้านาในข้อ 1
3. เก็บหอย ที่รอดตายจากการใช้สารฆ่าหอย อย่างน้อย สัปดาห์ละครั้ง โดยใช้กระชอนด้ามยาวซ้อน ซึ่งหอยจะอยู่ บริเวณที่ลุ่มหรือที่ร่มข้างคันนา ทั้งนี้เพราะถ้าปล่อยทิ้งให้ หอยอยู่ในนาข้าวจะกัดกินต้นข้าวและวางไข่ แพร่ลูกหลาน
อีกจำนวนมาก
4. ใช้สารฆ่าหอย เพื่อกำจัดหอยที่ฝังตัวจำศีลอยู่ในนา ตั้งแต่ฤดูปลูกที่ผ่านมา การใช้สารจะต้องใช้ขณะที่มีน้ำใน นาสูง 5 เซนติเมตร ในบริเวณที่ลุ่มหอยมักจะรวมกันเป็น จำนวนมาก ดังนั้นในนาดำจึงควรพ่นสารทันทีหลังปักดำ ส่วนในนาหว่านน้ำตมให้ใช้สารหลังจากข้าวงอกแล้ว และ ไขน้ำเข้านาจนมีระดับน้ำสูงคงที่ 5 เซนติเมตร ควบคุม ระดับน้ำเท่าเดิม ภายหลังใส่สารแล้วอย่างน้อย 2 วันทั้งนี้ เพื่อรักษาความเข้มข้นของสารฆ่าหอยที่ใส่ลงในนาข้าว ถ้า น้ำมากเกินไปปริมาณสารที่หอยได้รับจะไม่เพียงพอที่จะ
ทำให้หอยตาย หากน้ำแห้ง หอยจะปิดฝาทำให้รับสารไม่เต็มที่ หลังจากระยะนี้ผ่านไปแล้ว ถ้าหากเป็นไปได้ควรลดระดับ
น้ำในนาให้ต่ำที่สุดเพื่อป้องกันหอยที่เหลือกัดทำลายต้นข้าว ข้อสำคัญคือควรจะใช้สารเพียงครั้งเดียวต่อฤดูปลูกข้าว
5. ห้ามใช้สารเอ็นโดซัลแฟน เพราะจะทำลายสภาพแวดล้อม
สารฆ่าหอยเชอรี่ที่แนะนำ
1. กากเมล็ดชา เป็นสารที่ได้จากพืชหรือส่วนของพืชบด เป็นผง ใช้หว่านในนาข้าว อัตรา 3 กิโลกรัมต่อไร่ ควรใช้ใน
สภาพที่ไม่มีปลาในนาข้าวเนื่องจากมีพิษต่อปลาสูง
2. นิโคซาไมด์ (ไบลุสไซด์ 70% ดับบลิวพี) อัตรา 50 กรัมต่อไร่ โดยนำสารซึ่งเป็นผงสีเหลืองมาละลายน้ำ และ พ่นด้วยเครื่องพ่นสาร หรือใส่บัวราดน้ำ หรือใช้ภาชนะตักราดลงนาข้าว
3. เมทัลดีไฮด์ (แองโกล-สลัก 5%) หรือเดทมีล 4%
สารชนิดนี้เป็นเหยื่อพิษสำเร็จรูปอัดเม็ดใช้หว่านในอัตรา 0.5 - 1 กิโลกรัมต่อไร่หรือเดทมีล 80% ผง นำมาละลายน้ำ แล้วฉีดพ่นในอัตรา 100 กรัม/ไร่
4. คอปเปอร์ ซัลเฟต (copper sulphate) ใช้ในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อไร่ โดยนำมาละลายน้ำใส่บัวรดน้ำหรือใช้
ภาชนะตักราดลงนาข้าว