2. การเตรียมพื้นที่ปลูกยางพารา
เมื่อคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการได้แล้วขั้นตอนสำคัญขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมพื้นที่ ที่ต้อง ดำเนินการโดยประณีต (Intensive) การเตรียมพื้นที่คือการกำจัดวัชพืช ที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่ออกไป โดยการถอน ราก ถอนตอ กำจัดเศษวัชพืชตกค้างออกให้หมดสิ้น ทำการไถด้วยรถแทรกเตอร์ล้อยาง โดยไถบุกเบิกด้วยผาน 3 และไถพรวนด้วยผาน 7 ซึ่งหากเตรียมพื้นที่ได้ดีการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปก็จะสะดวกสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายน้อย จะเตรียมพื้นที่ช่วงไหนจะต้องคำนึงถึงฤดูกาลด้วย ในช่วงที่ฝนตกซึ่งพร้อมจะปลูก จะต้อง เตรียมพื้นที่ให้เสร็จก่อนฝนจะตกประมาณ 1 สัปดาห์ หากเตรียมพื้นที่เสร็จไว้นานมากจะมีปัญหาวัชพืชงอก ใหม่ หากเตรียมพื้นที่ล่าช้าจะสร้างปัญหาปลูกไม่ทันและค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นสูญเสียโอกาสของการเก็บเกี่ยว ผลผลิตในอนาคต ช่วงเวลาที่เหมาะสมควรดำเนินการระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน ในกรณีพื้นที่มากว่า 100 ไร่ หากพื้นที่น้อยกว่า 100 ไร่ ควรดำเนินการระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดู ฝนของแต่ละท้องที่ด้วย
วิธีการเตรียมพื้นที่มี 3 วิธี คือเตรียมพื้นที่ด้วยแรงงาน เครื่องจักรกล และสารเคมี การจะ เตรียมพื้นที่ด้วยวิธีไหนจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆด้วย ปัจจัยที่ควรคำนึงถึงที่สำคัญคือ สภาพของพื้นที่ ลักษณะของวัชพืช ขนาดของพื้นที่ ช่วงเวลาของการเตรียมพื้นที่หรือแม้แต่ทุนรอนของเจ้าของพื้นที่ เป็นต้น ซึ่งจะได้กล่าวในรายละเอียดต่อไป การเตรียมพื้นที่ทั้ง 3 วิธีนี้ในบางครั้งก็ต้องใช้ผสมผสานกัน
2.1 การเตรียมพื้นที่ด้วยแรงงาน
คือการใช้แรงงานถางป่า เผา เก็บริบ เผาริบ เป็นการ ดำเนินการ โดยวิธีดั้งเดิมเหมาะกับเจ้าของสวนขนาดเล็กดำเนินการเอง สภาพวัชพืชในพื้นที่เป็นพืชยืนต้นอยู่ ห่างไกลเส้นทางคมนาคมไม่สะดวกที่จะขนย้ายเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการ วิธีการดำเนินการมีการถางป่า โค่นล้มไม้ เผาป่า และเก็บริบ
1. การถางป่า ถางวัชพืชที่เป็นวัชพืชขนาดเล็กให้ทั่วพื้นที่ หากมีกอไผ่หรือหวายให้ฟันลง ให้ราบเรียบให้ตอใกล้ผิวดินมากที่สุด
2. การโค่นล้มไม้เมื่อถางป่าเสร็จให้โค่นต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ลงให้หมด ยอดของต้นไม้ต้อง ทำการฟันกิ่งลงให้ราบเรียบ ทิ้งป่าที่ถางและโค่นต้นไม้ผึ่งแดดไว้ประมาณ 1 เดือนจนต้นไม้เริ่มแห้ง
3. การเผาป่า ก่อนทำการเผาป่าให้ทำแนวกันไฟป้องกันไฟลุกลามออกนอกพื้นที่ไปไหม้ สวนใกล้เคียง ควรเตรียมอุปกรณ์ดับไฟไว้ด้วย ช่วงเวลาการจุดไฟที่ดีที่สุดคือช่วงอากาศร้อนที่สุดในเวลา ประมาณ 13.00 น. เพื่อไฟจะได้ไหม้ต้นไม้เศษไม้ปลายไม้ได้หมดสิ้น ในการจุดไฟเพื่อเผาป่าให้คำนึงถึง ทิศทางลมด้วย โดยเริ่มเผาจากทางด้านใต้ลมก่อน เมื่อไฟเริ่มลามเข้าในพื้นที่ประมาณ 25% จึงวางไฟเหนือลม สำหรับการเผาในที่ควนเขาที่ด้านบนเขายังมีป่าอยู่ให้วางไฟจากทางด้านบนก่อน เมื่อไฟลามเข้าสู่พื้นที่ ประมาณ 25% จึงจุดไฟเผาจากตีนเขาหรือตีนเนิน ไฟจะไหม้ไปชนกันกลางพื้นที่ในที่สุด
4. การเก็บริบ เผาริบ เป็นการเก็บต้นไม้เศษไม้ปลายไม้ที่หลงเหลือจากการเผาป่าเผาริบให้ หมดจากพื้นที่ หากการเผาป่าเผาไหม้ได้ดีจะเหลือเศษไม้ปลายไม้น้อยการเก็บริบจะรวดเร็วขึ้น ก่อนจะเข้าทำ การเก็บริบอาจจำเป็นต้องรอคอยให้ป่าที่เผาไว้เย็นลงพอสมควร วิธีการเก็บริบใช้แรงงานเก็บเศษไม้ขนาดเล็ก มากองรวมกันเพื่อทำเชื้อไฟ ตัดท่อนไม้ขนาดใหญ่มากองสุมด้านบน ถ้าสามารถกองเป็นกระโจมคล้ายก่อกอง ไฟของลูกเสือในการเล่นรอบกองไฟได้ จะจุดไฟเผาไหม้ได้ดีกว่าการซ้อนทับตามแนวนอน หลังจากนำไม้ ใหญ่มาทับบนกองเศษไม้แล้ว เมื่ออากาศเริ่มร้อนขึ้นเริ่มเผาไฟ ในระหว่างไฟไหม้คอยหมั่นมาตรวจสอบ ใช้ กิ่งไม้ขนาดใหญ่ ดันกองถ่านให้ไปไหม้เศษไม้ส่วนที่เหลือให้หมดสิ้น เป็นการสิ้นสุดขบวนการเตรียมพื้นที่ โดยใช้แรงงาน
การเตรียมพื้นที่ปลูกยางพาราด้วยแรงงานคน
ผลเสียของการเตรียมพื้นที่ด้วยวิธีนี้คือลักษณะของงานไม่ประณีต ยังมีตอไม้สะสมอยู่ใน แปลง ซึ่งเมื่อถึงฤดูฝนจะแตกหน่อใหม่ขึ้นรบกวนความเจริญเติบโตของต้นยางพารา การจะกำจัดตอให้หมด สิ้นนิยมใช้ยาฆ่าตอ แต่จะเป็นการสะสมสารพิษในดิน หากเตรียมพื้นที่ด้วยวิธีนี้ในพื้นที่ควนเขาจะต้องใช้ แรงงานจัดทำแนวปลูกยางพาราในระบบขั้นบันได (Terrace) ด้วย
2.2 การเตรียมพื้นที่ด้วยเครื่องจักรกล
วิธีนี้เหมาะกับพื้นที่ราบ ขนาดพื้นที่มาก ชนิด วัชพืชเป็นไม้ยืนต้นหรือเป็นไม้ไผ่หนาแน่น เครื่องจักรกลที่ต้องนำมาปฏิบัติงานคือรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ (Crawler) หรือรถขุด (Back hoe) ดำเนินการถางป่า ล้มไม้ ถอนตอ กวาดรวมกอง (Withdrawal) เผา เก็บริบ เกลี่ยปรับพื้นที่ หลังจากนั้นใช้รถแทรกเตอร์ล้อยาง (Farm tractor) ติดผานไถ 3 จานหรือ4 จาน ทำการไถบุกเบิก ทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน ติดผานไถ 7 จานทำการไถพรวน ก็จะเสร็จขั้นตอนของ การเตรียมพื้นที่ การเตรียมพื้นที่ที่ประณีต (Intensive) ภายหลังจากเตรียมพื้นที่เสร็จในพื้นที่นั้นจะต้องไม่ มีจอมปลวก ตอไม้ หรือเศษไม้ปลายไม้หลงเหลืออยู่ ซึ่งมีวิธีการจัดการได้ดังนี้
การเตรียมพื้นที่ปลูกยางพาราด้วยเครื่องจักรกล
การถางป่าด้วยรถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ หรือขุดตอด้วยรถแบคโฮให้ทิ้งต้นไม้ที่ล้มลงกระจาย ไว้ในพื้นที่ประมาณ 1 เดือน จนต้นไม้กิ่งไม้นั้นเริ่มหมาด หรือแห้งแล้ว จึงทำการกวาดรวมกอง
การรวมกองต้นไม้ที่ถางลงหรือขุดตอขึ้นมาให้รวมกองเป็นกองยาวๆ ให้แนวของกองเป็นไป ตามทิศทางลม หากพื้นที่เป็นที่ลาดชันหรือควนเขา ให้กองโดยมีทิศทาง ขึ้นเขาอัดกองด้านข้างให้แน่น
ทำการเผากองเศษไม้จากหัวกองทางด้านต้นลม หรือจากด้านได้ของควนเขาในกรณีที่ลาดชัน เนื่องจากไม้ที่กองยังไม่แห้งสนิท อาจจะใช้เชื้อไฟช่วยเผาในครั้งแรก เชื้อไฟที่ใช้อาจจะเป็นยางรถยนต์ที่ชำรุด แล้ว หรือน้ำมันดีเซลก็ได้ เริ่มเผาในตอนกลางวันขณะอากาศร้อน เมื่อไฟเริ่มลุกแล้ว ใช้รถแทรกเตอร์ ตีนตะขาบ หรือ รถแบคโฮ คอยอัดกองไฟ ให้แน่น เป็นระยะ การเผาไหม้ก็จะดีขึ้น ควรเผาพร้อมๆกันหลายๆ กองในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เพื่อเครื่องจักรที่คอยอัดกองไฟจะได้ไม่เสียเวลาทำงาน และเมื่อไฟไหม้เศษไม้ปลาย ไม้ส่วนเล็กๆหมดแล้ว จะคงเหลือต้นไม้ขนาดใหญ่หรือตอไม้ ให้ทำการสลายกอง แล้วอัดเผาใหม่ให้หมดก็จะ เผาได้ง่ายขึ้น เพราะมีถ่านไม้ติดไฟอยู่จำนวนมาก การเผาเศษไม้ปลายไม้โดยวิธีนี้ แม้จะมีฝนตกบ้างก็จะเผาได้ หมด
เมื่อเสร็จสิ้นการเผาจนไม่มีเศษไม้หลงเหลือแล้ว เป็นขั้นตอนของการเกลี่ยปรับพื้นที่โดยการ เกลี่ยจอมปลวกออกให้พื้นที่ราบเรียบ เพื่อความสะดวกในการไถบุกเบิกในพื้นที่ราบ หรือ การจัดทำขั้นบันได ในพื้นที่ลาดชัน
การไถบุกเบิกด้วยผานไถ 3 จาน หรือ 4 จาน ก่อนจะลงมือไถ เจ้าของสวนควรทราบว่าจะ ปักหลักหมายปลูกไปตามทิศทางได เพราะการไถบุกเบิกที่ดีทิศทางการไถควรจะตั้งฉากกับแนวปลูกต้นไม้ และการไถพรวนเป็นการไถตั้งฉากกับการไถบุกเบิกทิศทางการไถจะเป็นไปตามแนวปลูกต้นไม้ การ ดำเนินการเช่นนี้จะเป็นประโยชน์ในการเข้าดำเนินการปักหลักหมายปลูกและการปลูก เพราะคนงานไม่ต้อง เดินข้ามขี้ไถ เจตนาของการไถบุกเบิกเพื่อการขุดตอไม้เล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่ขึ้นมากำจัดทิ้ง
การไถพื้นที่นี้หากพื้นที่ปลูกยางพาราเป็นดินทรายเพียงใช้การไถพรวนครั้งเดียวก็เพียงพอไม่จำเป็นต้องทำการไถบุกเบิก
การไถในพื้นที่ปลูกยางพาราที่มีน้ำท่วมถึง จะเปลี่ยนเป็นการไถยกร่อง วิธีการไถจะไถไป ตามทิศทางของแนวปลูกต้นไม้ ใช้ผาน 3 หรือ ผาน 4 ไถครั้งแรก สาดดินที่ไถขึ้นไว้บริเวณโคนยางพารา และไถพรวนด้วยผาน 7 ด้วยวิธีเดียวกัน ระหว่างแถวยางพาราจะเป็นร่องลึกประมาณ 50 ซ.ม. สำหรับให้น้ำ ในดินไหลจากโคนต้นยางพารามาเก็บขังในฤดูฝน
ภาพหน้าตัดหลังไถยกร่องเสร็จ
การใช้เครื่องจักรกลในการเตรียมพื้นที่ในพื้นที่ลาดชันเมื่อดำเนินการตามข้อ 4. เสร็จแล้ว จะต้องจัดทำแนวปลูกในระบบขั้นบันได โดยใช้รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ หรือรถแบคโฮซึ่งมีวิธีการ ดังนี้
วางแนวหลัก หรือ Base Line จากยอดเขาลงเชิงเขาปักหลักให้มีระยะห่างทางแนว ระนาบเท่าระยะห่างระหว่างแถวปลูกยางพารา
ภาพระยะห่างแนวเชิงเขา
ใช้รถแทรกเตอร์ตีนตะขาบ หรือรถขุด ขุดผิวดินกว้างประมาณ 1.50-2.00 เมตร ไป ตามแนวขอบเขาโดยเริ่มจากหลักที่ปักไว้ ให้ระดับของแนวที่ขุดเป็นไปตามแนวระนาบ ซึ่งต้องใช้การสังเกต ของคนขับรถ หากพื้นที่เป็นภูเขาทั้งลูก แนวการขุดปรับจะวกกลับมายังจุดเริ่มต้น
ภาพบริเวณตัดออกเพื่อทำเป็นขั้นบันได
ในการตัดขั้นบันไดนั้นบางครั้งความลาดชันของพื้นที่ไม่สม่ำเสมอกันจะทำให้แนวปลูก ยางพาราอยู่ห่างกันไม่สม่ำเสมอ อาจจะต้องตัดแนวปลูกออกบางช่วงเรียกว่า แถวขาด หรืออาจจะต้องเพิ่มแถว ในบางช่วงเรียกว่า แถวแทรก โดยมีหลักการพิจารณาจากระยะปลูกที่กำหนดหากใช้ระยะปลูก 3 X 8 เมตร เมื่อแถวห่างกันประมาณ 4 เมตร จะตัดบริเวณนั้นออก หรือเมื่อห่างกันประมาณ 12 เมตร ให้แทรกเข้าไป 1 แถว ตามภาพตัวอย่าง
การวางแนวและขุดหลุมปลูกยางพาราในพื้นที่ลาดเท
เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้เสร็จแล้วเป็นการเสร็จสิ้นการเตรียมพื้นที่ด้วยเครื่องจักรกล
2.3 การใช้สารเคมี จะดำเนินการหลังจากถางป่า โค่นล้ม เก็บริบ เผาริบแล้ว ในพื้นที่ราบ
หรือควนเขาก็ได้ ปล่อยให้วัชพืชขึ้นประมาณ 30 ซ.ม. และใช้สารเคมีฉีดพ่นกำจัด ซึ่งจะเป็นวิธีการที่สะดวก และประหยัด วัชพืชตายสิ้นซาก หากดำเนินการไม่ทันวัชพืชขึ้นสูงมาก จะต้องใช้สารเคมีในการกำจัดมากขึ้น วัชพืชจึงจะแห้งตาย โดยคำนึงถึงชนิดของวัชพืชที่ขึ้นอยู่เป็นหลัก เหมาะกับวัชพืชที่เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น หญ้าต่างๆ สารเคมีที่นิยมใช้ คือไกลโฟเสท และ อิมมาสเฟอร์ ในการดำเนินการควรจะดำเนินการในต้นฤดูฝน ปล่อยให้วัชพืชยุบตายจึงจะเข้าดำเนินการในขั้นตอนต่อไป